เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ


          เศรษฐกิจ พอเพียงความหมายกว้างกว่าทฤษฎีใหม่ โดยที่เศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดที่ชี้บอกหลักการ และแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่ ในขณะที่ แนวพระราชดำริเกี่ยวกับทฤษฎีใหม่ หรือเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่ง เป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรอย่างเป็นขั้นตอนนั้น เป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในทางปฏิบัติ ที่เป็นรูปธรรม เฉพาะในพื้นที่ที่เหมาะสม ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ อาจเปรียบเทียบกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กับ แบบก้าวหน้า ได้ดังนี้ความพอเพียงในระดับบุคคล และครอบครัว โดยเฉพาะเกษตรกรเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบพื้นฐาน เทียบได้กับทฤษฎีใหม่


" เกษตรทฤษฏีใหม่ คืออะไร "

          เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเกี่ยวกับการจัดพื้นที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยอย่างหลากหลายเหมาะสม และมีชีวิตอย่างยั่งยืนโดยมีแบ่งพื้นที่เป็นส่วนได้แก่ พื้นที่น้ำ พื้นที่ดินเพื่อเป็นที่นาปลูกข้าว พื้นที่ดิน สำหรับปลูกพืช ไร่นานาพันธุ์ และที่สำหรับอยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ ในอัตราส่วน 30:30:30:10 เป็นหลักการในการบริหาร การจัดการที่ดินและน้ำ เพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด




" การทำเกษตรทฤษฏีใหม่ ทำแล้วได้อะไร "

  ประหยัด

    ประชาชนพออยู่พอกินในระดับประหยัด

    เลี้ยงตนเองได้ ไม่อดอยากมีอาหารบริโภคอย่างพอเพียง


   พอใช้

      ในหน้าแล้งก็สามารถนำน้ำที่เก็บกักไว้ในสระมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย

      เช่น ถั่วต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องอาศัยชลประทาน






  มีรายได้

    ในปีที่ฝนตกตามฤดูกาลโดยมีน้ำดีตลอดปี

    ทฤษฎีใหม่นี้ก็สามารถสร้างรายได้ให้ร่ำรวยขึ้นได้


   ช่วยเหลือตนเอง

      ในกรณีที่เกิดอุทกภัย ก็สามารถฟื้นตัว และช่วยตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

      โดยราชการไม่ต้องช่วยเหลือมากนัก






" เกษตรทฤษฏีใหม่มีขั้นตอนทำอย่างไร "

ให้แบ่งพื้นที่ ออกเป็น 4 ส่วน ตามอัตราส่วน 30 : 30 : 30 : 10 ดังนี้



   แหล่งน้ำ 30%

      ให้ขุดสระเก็บกักน้ำ เพื่อให้มีน้ำใช้สม่ำเสมอตลอดปี โดยเก็บกักน้ำ

      ฝนในฤดูฝน และใช้เสริมการปลูกพืชในฤดูแล้ง หรือระยะฝนทิ้งช่วง

      ตลอดจนการเลี้ยงสัตว์และพืชน้ำต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด โสน ฯลฯ









  นาข้าว 30%

    ให้ปลูกข้าวในฤดูฝน เพื่อใช้เป็นอาหารประจำวันสำหรับครัวเรือนให้

    เพียงพอ ตลอดปีโดยไม่ต้องซื้อหาในราคาแพง เป็นการลดค่าใช้จ่าย

    และสามารถพึ่งตนเองได้


   พืชสวนพืชไร่ 30%

      ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชไร่ พืชผัก พืชสมุนไพร ฯลฯ อย่างผสม

      ผสานกันและหลากหลายในพื้นที่เดียวกัน เพื่อใช้เป็นอาหารประจำวัน

      หากเหลือจาก การบริโภคก็นำไปขายได้









  ที่อยู่อาศัย 10%

    ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ ถนนหนทาง คันดิน โรงเรือนและสิ่ง

    ก่อสร้าง อื่นๆ รวมทั้งคอกเลี้ยงสัตว์ เรือนเพาะชำ ฉางเก็บผลิตผลการเกษตร ฯลฯ


" เกษตรทฤษฏีใหม่ตามแนวพระราชดำรินี้ช่วยให้เกษตรกรไทย "


มีรายได้ที่พอเพียง มั่นคง มีความสุข

    เครดิต : นางสาวรสริน สุขสมบัติ ลิงค์ข้อมูล